คามู คามู – สรุปประโยชน์และเรื่องน่ารู้ต่างๆ เกี่ยวกับผลคามู คามู

คามู คามู เป็นไม้กระพุ่มที่มีขนาดย่อมราวๆ 2-4 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Myrciaria dubia มีต้นกำเนิดในพื้นที่ฝั่งของแนวป่าฝนย่านแม่น้ำอะเมซอน ที่กินอาณาเขตหลายเมือง ตั้งแต่ ประเทศบราซิล ประเทศเวเนซุเอลา ประเทศโคลัมเบีย และประเทศเปรู มีนามในภาษาท้องถิ่นว่า Camu Camu, Camo Camo และ Cacari มีผลม่วงอมแดงคล้ายกับผลเชอรี่ ขนาดเท่าผลมะนาวใหญ่ๆ ใบและผลสามารถทำยาแก้โรคสมุนไพรได้สารพัด มีสรรพคุณต้านการติดโรคไวรัส รักษารอยแผล งูสวัด เป็นเภสัชแก้ไข้ ปวดศรีษะ แก้โรคหอบหืด แก้อาการซึมเศร้า รักษาสมดุลทางอารมณ์ รักษาต้อ ต้อแก้วตา เพิ่มภูมิคุ้มกัน รวมทั้งการต่อต้านอนุมูลอิสระ ตลอดจนข้อเข่าเสื่อม

นั่นคือการที่คนในสมัยโบราณ ‘ทาน’ ในฐานะไม้ผลชนิดหนึ่ง คามู คามู เป็นลูกไม้ที่พบได้ไม่ยากในทวีปอเมริกาใต้ คนท้องถิ่นจึงนิยมนำมาทำอาหารการกินมากหลายชนิด ทั้งน้ำผลไม้ ไอติม แต่ คามู คามู ไม่ได้เป็นผลไม้ที่ส่งออกจำหน่ายทั้งโลก ที่เราพบเจอกันทั่วๆ ไปจะอยู่ในรูปสารเคมีที่สกัดจากผลสด เช่น ผงคามู คามู และ คามู คามู ชนิดเม็ดและชนิดแคปซูล ส่วนในประเทศไทยก็เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มหลายๆ ชนิด ที่ให้เหตุผลว่า เพื่อสุขภาพอนามัย ไปจนถึง ให้ความขาวผุดผ่อง

ในตลาดโลกยุคปัจจุบัน คามู คามู คือ ผลาผลที่มีวิตามินซีสูง ราวร้อยละ 2-3 ของน้ำหนักผลสด ซึ่งมากกว่าจำนวนของวิตามินซีในส้มเขียวหวาน 30 เท่า มีธาตุเหล็กยิ่งกว่า 10 เท่า ไนอาซีน 3 เท่า ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) 2 เท่า และมีฟอสฟอรัสมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นยังมีเบตา-แคโรทีน โปรตีน กรดไขมันที่เป็นผลดี และองค์ประกอบทางเคมีต่างๆ ที่เป็นคุณค่าต่อร่างกายมาเป็นจุดขาย

ลักษณะของผลคามู คามู

คุณประโยชน์ของ คามู คามู

ประโยชน์ของ คามู คามู มีมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

วิตามินซี

คามู คามู มีวิตามินซีมากกว่าส้มและผลไม้ชนิดอื่นหลายเท่าตัว เช่น ผงคามู คามู ครึ่งช้อนชาจะมีวิตามินซีมากถึง 4 เท่าต่อความต้องการในแต่ละวัน

โพแทสเซียม

ร่างกายของเราต้องการโพแทสเซียมเพื่อให้ไตและหัวใจทำงานได้ตามปกติ คามู คามู จะมีโพแทสเซียมอยู่ประมาณ 71.1 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม

วาลีน

วาลีน (Valine) เป็นกรดอะมิโนขาดไม่ได้ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง วาลีนทำหน้าที่ป้องกันการเสื่อมของกล้ามเนื้อและระบบเส้นประสาท

ลิวซีน

ลิวซีน (Leucine) เป็นกรดอะมิโนขาดไม่ได้อีกชนิดที่ร่างกายไม่สามารถผลิตด้วยตนเองได้ ต้องรับจากอาหารการกิน ลิวซีนจำเป็นต่อการเติบโตและการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ กระดูก และมีส่วนช่วยส่งเสริมการเจริญเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ

ซีรีน

ซีรีน (Serine) เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายผลิตเองได้ แต่ก็พบได้ในนม เนื้อสัตว์ ถั่วต่างๆ มีส่วนสำคัญในการเติบโตของเซลล์ ช่วยในขั้นตอนเผาผลาญไขมัน ช่วยแบ่งโปรตีนและโพลีเป็บไทด์ให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้

ฟลาโวนอยด์

ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) มีสรรพคุณต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) บางชนิดสามารถต้านอนุมูลอิสระได้เหนือกว่าวิตามินซี พบในผักผลไม้ ซึ่งในพืชแต่ละลักษณะจะมีจำนวนและชนิดของฟลาโวนอยด์ต่างกันไป ซึ่ง คามู คามู มีฟลาโวนอยด์อยู่หลากหลายชนิด เมื่อบริโภคจะเท่ากับได้บริโภคผักผลไม้หลายๆ ชนิดด้วยกัน

กรดแกลลิก

กรดแกลลิก (Gallic Acid)ที่พบใน คามู คามู มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านไวรัสและเชื้อโรคหลายประเภท

กรดเอลลาจิก

กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid)เป็นกรดอีกชนิดหนึ่งที่ค้นพบใน คามู คามู มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระเคยมีการเรียนรู้ว่ามีคุณสมบัติในการต้านทานเนื้อร้าย รวมทั้งมีผลในการเยียวยารักษาเบาหวาน

คุณลักษณะทางการแพทย์ของผล คามู คามู

นอกจากผลการหาความรู้ในปี 2010 จาก Journal of Agricultural and Food Chemistry ที่เจอว่า คามู คามู มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อการรักษาโรคเบาหวาน เมื่อก่อนนั้น ในปี 2008 ในวารสาร Journal of Cardiology ได้มีเสนอเรื่องผลการลองทำในการลดการอักเสบและติดเชื้อของปอด โดยนักดูดยาสูบเพศชาย 36 คน ถูกแยกเป็น 2 ประเภท กลุ่มแรกให้ดื่มน้ำคั้นสดจาก ผลคามู คามู เทียบกับอีกกลุ่มหนึ่งที่ทานวิตามินซีชนิดเม็ดตลอดเวลาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อจบการพิสูจน์ ผลปรากฎว่ากลุ่มที่ใช้ คามู คามู พบว่าสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้ และมีจำนวนรวมของเซลล์ที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระในภาวะที่สารต้านอนุมูลอิสระไม่พอ หรือมีอัตราที่ลดน้อยลง โดยกลุ่มที่ได้รับวิตามินซีชนิดเม็ดไม่เกิดผลลัพธ์อะไรเลย

เนื้อผลสดข้างในผลคามู คามู ที่อุดมไปด้วย วิตามินซี

ข้อควรระลึกเกี่ยวกับการใช้คามู คามู

โดยปกติแล้วเมื่อสิ่งใดที่มีผลดีมากๆ ย่อมมีอีกด้านมี่ต้องเฝ้าระแวดระวังกันอยู่สม่ำเสมอ จึงมีข้อทักท้วงว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังเล็กน้อยเกินไปที่จะสรุปความว่า คามู คามู เป็นพฤกษาน่าพิศวงที่มีประโยชน์มากเหมือนคำกล่าวอ้างจากหลายๆ ที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบในด้านลบต่อร่างกาย

ปัญหากับระบบย่อยอาหารการกิน

คุณหมอและนักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่า เรายังมีข่าวสารไม่พอเพียงในเรื่องของการที่ร่างกายจะนำจุดเด่นของลูกไม้ประเภทนี้ไปใช้อรรถประโยชน์ทั้งหมด เพราะคุณสมบัติบางอย่างของผล คามู คามูอาจจะส่งผลพวงต่อระบบการดูดซับได้ เหตุเพราะจำนวนวิตามินซีที่มากก็ทำให้จำนวนของกรดธรรมชาติที่มีมากมายตามไปด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารการกิน เป็นพิเศษการทำงานของกระเพาะอาหารได้

ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง

วิตามินซีช่วยในการสร้างเสริมภูมิต้านทานที่ดีในผู้สูงวัย ถ้าหากว่ากินไม่เลยวันละ 2,000 มิลลิกรัม หากรับวิตามินซีเข้าไปในจำนวนมากๆ ร่างกายก็จะทำการขจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและถ่ายอุจจาระที่จะมีความถี่มากขึ้น จนถึงขั้นท้องเดินอย่างร้ายแรง

ตาค้างและมีความหิวอาหารการกินมากขึ้น

การศึกษาเจอว่า ผลคามู คามู มีส่วนในการเพิ่มจำนวนของ เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อเส้นประสาทที่ดูแลอารมณ์และความหิว นั่นเป็นเหตุว่าทำไม คามู คามู จึงถูกใช้เป็นสมุนไพรเยียวยารักษาอาการเซื่องซึม เมื่อคนที่มีอาการซึมเศร้ามีความรู้สึกที่ดีขึ้น ก็จะมีความกะปรี้กะเปร่า แข็งแรง ตาค้าง และมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งหากว่าอยู่ในสภาพแบบนี้นานๆ จะส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกมาก

สภาวะการเป็นพิษจากธาตุเหล็ก

วิตามินซีช่วยเหลือให้ร่างกายดูดซึมเหล็ก เมื่อกินผลไม้ที่มีวิตามินซีปริมาณมากจะส่งผลลัพธ์ต่อการซึมธาตุเหล็กของร่างกายให้มากตามไปด้วย ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกิน (Overdose Iron) ยิ่งกว่าที่ร่างกายต้องการ ส่งผลให้เกิดอาการอาเจียนอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ไตและตับพังได้

หัวใจเต้นอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า วิตก และเคร่งเครียด มีโอกาสทำให้จำนวนตัวเลขความดันเลือดสูง คามู คามู ที่ใช้ในการรักษาสภาพดังกล่าวจึงอาจจะส่งผลให้ความดันเลือดสูงขึ้นกว่าเดิม และแม้จะเป็นผลกระทบที่มีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่ก็มีคำชี้แนะทางการแพทย์ว่า การใช้ ผลคามู คามู เป็นสมุนไพรรักษาภาวะทางอารมณ์ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์

ผลคามู คามู ยังเป็นแค่สมุนไพร

ข้อสำคัญชนิดหนึ่งนอกจากผลข้างเคียงจากวิตามินซีที่มีมากแล้ว สรรพคุณของ คามู คามู ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนา การทานเป็นบางวิถีทางในฐานะ ‘ผลไม้’ คงไม่ใช่ปมปัญหา แต่หน่วยงานใหญ่อย่าง องค์การของกินและยาสหรัฐอเมริกา (UFDA : U.S. Food and Drugs Administration) ก็ยังไม่ได้มีการรับรองสรรพคุณทางการแพทย์ และยังไม่มีเอกสารรับรองจากประเภทแพทย์ใดๆ อย่างเป็นทางการ ดังนั้น ผลคามู คามู จึงยังเป็นสมุนไพรที่ผ่านการทดสอบหาคุณค่าต่อร่างกายในรูปแบบของอาหารเสริมเพียงเท่านั้น

คามู คามู – ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ในปัจจุบัน

ด้วยความที่ คามู คามู นั้น เป็นผลไม้ที่วิตามิน C สูงมาก ซึ่งวิตามิน C นั้น เป็นวิตามินที่มีสรรพคุณต่อการบำรุงผิวของร่างกาย และ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ แม้ว่า ผลคามู คามู นั้นจะมีผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ไม่มาก แต่ในประเทศในแถบลุ่มน้ำอเมซอน (เช่น เปรู บราซิล โคลอมเบีย) นั้นได้มีการรับประทานผลสดของคามู คามู มาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว และนำผลคามู คามู ไปแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เช่น นำไปทำแยม คั้นเป็นน้ำผลไม้สดๆ เพื่อดื่ม ซึ่งในปัจจุบันนั้น คามู คามู จัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีความนิยมสูงมากๆ ในหมู่คนรักสุขภาพ ด้วยความที่มันมีคุณค่าทางโภชนาการสูงนั่นเอง ทำให้ผลคามู คามู นั้นถูกแปรรูปเป็นอาหารเพื่อสุขภาพในรูปแบบต่างๆ มากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์เพื่อบริโภคเหล่านี้กัน

คามู คามู แบบผง

ตัวอย่าง คามู คามู แบบผง

ปัจจุบันในต่างประเทศนั้น คามู คามู ได้ถูกแปรรูปไปเป็นแบบผงเป็นจำนวนมาก อาจจะอยู่ในรูปแบบของแคปซูล หรือ บรรจุถุง เพื่อให้รับประทานได้ง่ายมากขึ้น สาเหตุที่ถูกแปรรูปเป็นแบบผงนั่นก็คือทำให้สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยที่ยังคงคุณค่าทางอาหารอยู่

คามู คามู แบบดื่ม

ตัวอย่าง คามู คามู แบบดื่ม

ผลคามู คามู นั้น สามารถนำมาคั้นเป็นน้ำผลไม้ได้ นิยมดื่มเป็นอาหารเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ นอกจากจะมีแบบผลคามู คามู ล้วนๆแล้ว ในบางที่ยังนำน้ำผลไม้ต่างๆ มาผสมด้วย เพื่อให้เกิดรสชาติแบบใหม่และเสริมสร้างคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ มากขึ้น

คามู คามู แบบอัดแท่ง

ตัวอย่าง คามู คามู แบบอัดแท่ง

เพื่อความสะดวกในการรับประทาน ในต่างประเทศ ได้นำผลคามู คามู ไปผสมกับอาหารให้พลังงานชนิดแท่ง อย่างเช่น ช็อกโกแลต เพื่อเพิ่มรสชาติและประโยชน์จากธรรมชาติ ถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่ทานได้ไม่ยาก และ สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย

คามู คามู แบบสกัดเข้มข้น

ตัวอย่าง คามู คามู แบบสกัดเข้มข้น

คามู คามู แบบสกัดเข้มข้นนั้น จะมาในรูปแบบของผลไม้สกัด อย่างที่ดังๆ ในประเทศไทยก็จะเป็นพรุนผสมกับ คามู คามู ซึ่งอาหารรูปแบบนี้สามารถหารับประทานได้ง่าย หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ มากมายทั่วประเทศ

จะเห็นได้ว่า ผลคามู คามู นั้นเป็นที่นิยมมากในหมู่คนรักสุขภาพ คามู คามู ถูกนำไปแปรรูปเป็นอาหารหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ นั่งเอง ซึ่งคามู คามู รูปแบบต่างๆ นั้น ยังคงถูกคงคุณค่าไว้อยู่ เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารต่างๆ ไว้อย่างดีและสูญเสียน้อยที่เองนั่นเอง

คามู คามู – คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณในการรักษาโรค

คุณค่าทางอาหารของ คามู คามู

หลังจากที่เราได้เรียนรู้กันไปแล้วว่า คามู คามู คืออะไร? ก็ทำให้ทราบว่าผลคามู คามู นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ ซึ่งภายในผลคามู คามู นั้นอุดมไปด้วยวิตามิน C ที่สูงมาก สูงในระดับที่ว่าไม่มีผลไม้ชนิดใดสู้ได้เลยทีเดียว และผลคามู คามูนั้น ยังมีสารอาหาร, แร่ธาตุ และกรดอะมิโนประเภทต่างๆ อีกมากมาย เช่น เบต้าแคโรทีน, โพแทสเซียม, แคลเซียม, เหล็ก, ไนอะซิน, ฟอสฟอรัส, โปรตีน, ไซรีน, ไทอะมีน, ลิวซีน และ วาลีน รวมไปถึงสารต่อต้านอนุมูลอิสระประเภทต่างๆ ที่ช่วยลดการเกิดริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

คุณค่าทางโภชนาการของผลคามู คามู

มีผลการวิจัยมากมายที่กล่าวถึงสรรพคุณของผลไม้จากป่าอะเมซอนชนิดนี้ ซึ่ง ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดาของ คามู คามู นั้นมีดังนี้

• คามู คามู แบบผงเพียงครึ่งช้อนโต๊ะ มีวิตามิน C ที่สูงกว่าความต้องการในชีวิตประจำวันถึง 4 เท่า
• เพิ่มภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้กับร่างกาย
• ผลคามู คามู มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก
• ปรับสมดุลต่างๆ ในร่างกาย ช่วยลดอาการเครียดหรืออาการซึมเศร้า
• คามู คามู ช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของดวงตาและสมอง
• ช่วยรักษาอาการโรคกี่เกี่ยวกับข้อต่างๆ ในร่างกาย โดยผล คามู คามู จะช่วยลดการอักเสบของข้อ
• ช่วยลดอัตราการติดเชื้อโรคต่างๆ
• ใน คามู คามู มีส่วนช่วยในการบำรุงการทำงานของตับ ช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการเกิดมะเร็งกับตับ
• ต่อต้านและยับยั้งการเกิดเชื้อโรคประเภทเริมต่างๆ

ผลคามู คามู มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างอารมณ์และจิตใจให้ดียิ่งขึ้น

คุณสมบัติพิเศษของเจ้าผลไม้ชนิดนอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการที่สูงแล้ว ยังมีการวิจัย คามู คามู ในด้านต่างๆ อีก ซึ่งการค้นพบคุณสมบัติพิเศษนี้ค้นพบโดย ดร. แกรี่ นัวร์ รู้จักกันดีในฐานะนักวิจัยในด้านโภชนาการ ได้ระบุในหนังสือชื่อดังของเขาว่า ผลคามู คามู นั้นถูกจัดให้เป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการปรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้สมดุล ให้ร่างกายมีการทำงานที่ปกติอยู่ตลอดเวลา และส่งผลให้อารมณ์และจิตใจดียิ่งขึ้น เพราะสารอาหารในผลคามู คามู นั้นมีส่วยช่วยในการทำงานของระบบระสาท โดยเฉพาะ วิตามิน C ที่ช่วยสร้างระดับของสาร เซโรโทนิน ในสมอง ทำให้สมองเกิดอาการผ่อนคลาย ช่วยให้จิตใจสงบและคลายเครียด

จะเห็นได้ว่าคุณค่าทางโภชนาการ และ คุณสมบัติของ ผลคามู คามู นั้น มีหลายประการจริงๆ แต่ว่าในประเทศนั้นอาจจะหายากทานได้ยากอยู่ซักหน่อย แบบผลสดอาจจะยังไม่เห็นตามท้องตลาด แต่ผลคามู คามูนั้นถูกนำไปใช้ผสมกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามประเภทต่างๆ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ามีโอกาสได้ทานผลไม้ที่มีประโยชน์มากแบบนี้ รับรองว่ามีผลดีต่อร่างกายมากๆ แน่เลยค่ะ

ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดาของคามู คามู

คามู คามู คืออะไร? คามู คามู นั้นเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณแอฟริกาใต้ในแถบประเทศบราซิล และ ประเทศเปรู ผลคามู คามูนั้นได้รับความนิยมในต่างประเทศมานานในฐานะผลไม้เพื่อสุขภาพ เนื่องจากมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ผลคามู คามูนั้นเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่อยู่
ใกล้น้ำ เช่น ป่าอเมซอน และป่าดิบชื้นแถบประเทศเปรู, บราซิล, โคลอมเบีย และ เวเนซูเอล่า คามู คามู นั้นมีขนาดเท่ากับลูกมะนาวบ้านเรา แต่สีของผลนั้นจะออกไปทางสีส้มแดง

ชาวแอฟริกันนั้นนิยมให้ผลคามู คามู ในการรักษาโรคต่างๆ เช่น ร้อนใน, เริม, โรคงูสวัด และ สามารถบรรเทาไข้หวัดทั่วไปได้ และที่สำคัญ คามู คามู นั้นยังเป็นแหล่งของสารอาหารที่ช่วงในการบำรุงสายตาและเหงือกได้ เช่น วิตามิน ซี และ วิตามินประเภทต่างๆ แม้
ว่าในปัจจุบันนั้นผลการวิจัยของคามู คามูอยู่ในวงที่จำกัดอยู่ แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงประโยชน์ของคามู คามูกัน

ในผลคามู คามู นั้นอุดมไปด้วยวิตามิน C

จากผลการวิจัย ผลคามู คามูนั้นมีวิตามินมากกว่าส้มถึง 60 เท่า!!! และผงคามู คามู(ที่ได้จากการอบแห้ง) เพียงหนึ่งช้อนโต๊ะ จะให้วิตามิน C สูงกว่าปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันมากกว่า 1180% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเหงือกและฟันมากเลยทีเดียว ช่วยลด
อาการของโรคลักปิดลักเปิดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเสริมสร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสได้มากขึ้น

ผลคามู คามูประกอบไปด้วยกรดอะมิโนประเภทต่างๆ

วาลีน

วาลีนนั้นสามารถพบได้มากในคามู คามู ซึ่งวาลีนนั้นไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ หมายความว่า กรดอะมิโนตัวนี้จะสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น มีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมรรถนะของสมอง และการประสานงานการทำงานของกล้ามเนื้อต่างๆ
ในร่างกาย

ลิวซีน

ลิวซีนนั้นมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกาย เช่น ผิวหนัง, กระดูก และกล้ามเนื้อ

ซีรีน

เป็นกรดอะมิโนะที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมและแบคทีเรีย เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้มีความแข็งแรง

http://www.thaigoodview.com/node/167327

คามู คามู คืออะไร?

คามู คามู (Camu-camu) มีชื่อในทางวิทยาศาสตร์ว่า Myrciaria dubia เป็นพืชในวงศ์ตระกูล Myrtaceae มีประเภทเป็นหรือไม้ต้นขนาดเล็ก มีการกระจายตัวอยู่อาณาบริเวณที่น้ำท่วมถึงในประเทศบราซิล ไปจนกระทั่งถึงประเทศเปรู มีส่วนสูงราวๆ 2 – 3 ม. ดอกมีขนาดเล็กสีขาว ผลมีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 1 นิ้ว และจะแปลงจากสีเขียวเป็นสีแดงอมม่วงเมื่อแก่ มีรสชาติเปรี้ยว สมัยนี้นิยมนำผล คามู คามู มาคั้นเป็นน้ำผลไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไอติม ชาวเปรูดื่มน้ำคั้นจากผล หรือน้ำคั้นที่ผสมกับน้ำเปล่าเพื่อบรรเทาอาการหวัด และใช้บรรเทาอาการของโรคภัยในระบบทางเดินอาหาร และนำส่วนเปลือกต้นมาทำยาเคลือบ ใช้บรรเทาแผลเป็น นำเปลือกต้นไม้มาต้มกับส่วนของผลและเหล้ารัม ใช้บำบัดรักษาโรคไขข้ออักเสบ

การพิจารณาทางเคมีพบว่าผลสดของ คามู คามู มีวิตามิน Cสูงไม่เบาเลยทีเดียว โดยมี กรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) หรือ วิตามิน C 2.6 – 3.2 กรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณของวิตามิน Cภายในส้มเขียวหวานถึง 30 เท่าตัว มีธาตุเหล็กเป็น 12 เท่า ไนอาซีน 3 แค่ ไรโบฟลาวิน (Vitamin B2) 2 เท่า และมีฟอสฟอรัสมากกว่าส้มถึง 55% อีกด้วย นอกจากนั้นในผลคามู คามู ยังมีสารในพวก phenolic ถึง 30 แบบ เช่น flavonoids, flavanols, flavan-3-ols, catechins, ellagic acid, gallic acids, anthocyanins, delphinidin 3-glucoside, cyanidin 3-glucoside, flavonols, rutin, flavanones, naringenin, tannins (gallo- และ ellagitannins) เพราะเหตุดังกล่าวจึงเป็นที่คาดหมายกันว่า เจ้าผลคามู คามู น่าจะสามารถนำมาพัฒนาเป็นยาแก้โรค เครื่องสำอาง หรือสินค้าสำหรับเยียวยารักษาและบรรเทาโรคภัยต่างๆ ได้

การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาส่วนใหญ่พบว่าผลคามู คามู มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ และมีประโยชน์ทางอาหารสูง การเรียนในอาสาสมัครชายที่สูบซิการ์เป็นอาจิณจำนวน 20 คน โดยสุ่มให้ดื่มน้ำคั้นของผล คามู คามู 100% ขนาด 100 มล. (มีปริมาณVitamin ซี 1250 มก.) หรือ ได้รับวิตามินซี 1250 มก. เป็นเม็ด เป็นเวลา 1สัปดาห์ พบว่ากรุ๊ปที่ดื่มน้ำคั้นของผลคามู คามู มีขั้นตัวชี้วัดของภาวะการก่อเกิดออกซิเดชันและสภาพการอักเสบเบาลง ขณะที่ค่าดังกล่าวข้างต้นของกรุ๊ปที่ได้รับVitamin ซีอัดเม็ดไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาสภาวะของเบาหวานพบว่า สารสำคัญอย่างสารในกลุ่ม phenolic และ ellagic acid ในผลคามู คามู ไม่สามารถขัดขวางเอนไซม์ alpha-amylase หรือ alpha-glucosidase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีส่วนกับการเกิดภาวะเบาหวานได้

http://www.vcharkarn.com/vblog/116837